เลือกถังบำบัดน้ำเสียให้เหมาะกับประเภทอาคาร

เลือกถังบำบัดน้ำเสียให้เหมาะกับประเภทอาคาร

เคล็ดลับในการเลือกถังบำบัดน้ำเสียอย่างไรให้เหมาะกับอาคารแต่ละประเภท

ปัจจุบันการจัดการน้ำเสียเป็นอีกหนึ่งในประเด็นสำคัญสำหรับการพัฒนาอาคารที่ยั่งยืน และ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย เนื่องจากน้ำเสียจากอาคาร เช่น บ้านพักอาศัย คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน หรือ โรงงานอุตสาหกรรม สามารถส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และ สุขภาพของชุมชนได้หากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ถังบำบัดน้ำเสียเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม การเลือกถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมต้องพิจารณาประเภทอาคาร ปริมาณน้ำเสีย คุณสมบัติของถัง และ ข้อกำหนดทางกฎหมาย ดังนั้นบทความนี้จะนำเสนอแนวทางการเลือกถังบำบัดน้ำเสียให้เหมาะสมกับประเภทอาคารต่างๆประเภทของถัง และคำแนะนำเพื่อให้ผู้อ่านสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง และ มีประสิทธิภาพ

ทำความรู้จักถังบำบัดน้ำเสีย คือ อะไร และ ทำงานอย่างไร

โดยถังบำบัดน้ำเสีย คือ ภาชนะ หรือ อุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำเสียจากการใช้งานภายในอาคาร เช่น น้ำจากห้องน้ำ อ่างล้างหน้า ห้องครัว ก่อนปล่อยออกไปยังท่อสาธารณะ หรือ ระบบบำบัดขั้นต่อไป ซึ่งหลักการทำงานพื้นฐานของถังบำบัดมี 2 แบบหลักๆ ได้แก่

  1. ระบบเกรอะ (Septic Tank)
    ระบบถังบำบัดน้ำเสีย นั้นจะให้น้ำเสียไหลเข้าสู่ถังเพื่อแยกตะกอนหนักให้ตกลงด้านล่าง เพื่อให้เกิดการย่อยสลายด้วยจุลินทรีย์แบบไม่ใช้ออกซิเจน จึงเหมาะกับบ้านพัก หรือ อาคารที่มีปริมาณน้ำเสียไม่มาก
  2. ระบบกรองเติมอากาศ (Activated Sludge หรือ Aerobic)
    ถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศนั้นจะใช้จุลินทรีย์ที่ต้องการออกซิเจนในการย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสีย โดยต้องมีเครื่องเติมอากาศ หรือ ปั๊มลมช่วยในการทำงาน จึงเหมาะกับอาคารขนาดกลางถึงใหญ่ที่มีปริมาณน้ำเสียมากๆ

 

ประเภทของถังบำบัดน้ำเสีย

  1. ถังเกรอะ
    ถังบำบัดน้ำเสียแบบนี้นั้นจะทำงานด้วยการแยกตะกอน และ ย่อยสลายแบบไม่ใช้ออกซิเจน ซึ่งมีข้อดีที่มีราคาถูก ติดตั้งง่าย ดูแลไม่ซับซ้อน แต่ก็มีข้อจำกัดที่ มีประสิทธิภาพบำบัดไม่สูงมาก น้ำทิ้งอาจไม่สะอาดพอ และ ต้องมีบ่อซึม หรือ ระบบบำบัดเสริมด้วย
  2. ถังกรองไร้อากาศ (Anaerobic Filter)
    ถังบำบัดน้ำเสีย แบบกรองไร้อากาศนั้นจะมีการกรองผ่านตัวกลาง เช่น หิน พลาสติก เพื่อเพิ่มพื้นที่ยึดเกาะของจุลินทรีย์ ซึ่งมีข้อดีที่สามารถ บำบัดได้ดีกว่าถังเกรอะเพียงอย่างเดียว แต่ก็มีข้อจำกัดหากมีปริมาณน้ำเสียมากอาจบำบัดได้ไม่เพียงพอ
  3. ถังกรองเติมอากาศ (Aerobic System)
    ถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศนั้นจะใช้เครื่องเติมอากาศเพื่อเลี้ยงจุลินทรีย์ที่ช่วยย่อยสลาย โดยมีข้อดีที่ มีประสิทธิภาพสูง น้ำที่ออกมาจึงค่อนข้างสะอาด แต่ก็มีข้อจำกัดที่มี ราคาสูงขึ้น ต้องมีค่าไฟ และการดูแลปั๊มลมเป็นอย่างดี
  4. ถังบำบัดแบบรวมสำเร็จรูป
    ถังบำบัดน้ำเสียแบบรวมสำเร็จรูปนั้นจะผลิตจากวัสดุ เช่น ไฟเบอร์กลาส หรือ พลาสติก PE โดยภายในมีหลายห้อง เช่น ห้องเกรอะ ห้องกรอง ห้องเติมอากาศ รวมในถังเดียว จึงเหมาะกับอาคารที่ต้องการความสะดวกในการติดตั้ง และ มีพื้นที่จำกัด

 

วิธีการเลือกถังบำบัดน้ำเสียตามประเภทอาคารต่างๆ

  1. บ้านพักอาศัยเดี่ยว
    โดยลักษณะน้ำเสียของบ้านพักอาศัยนั้นจะเป็น น้ำเสียจากห้องน้ำ ครัว และ ซักล้าง ซึ่งมีปริมาณ 600-1,200 ลิตรต่อวัน (ครอบครัว 4-6 คน) จึงเหมาะกับถังบำบัดน้ำเสียถังเกรอะ-ซึม ขนาด 1,000-2,000 ลิตร ที่เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่ดินซึมน้ำได้ดี และ แบบถังไร้อากาศที่เหมาะ สำหรับบ้านในพื้นที่ไม่มีไฟฟ้า นั้นเอง
  2. คอนโดมิเนียม และ อพาร์ตเมนต์
    ลักษณะน้ำเสียของคอนโด และ อพาร์ตเมนต์นั้นจะเป็นน้ำเสียจากห้องน้ำ และ ครัว โดยมีปริมาณ 10,000-50,000 ลิตรต่อวัน ขึ้นกับจำนวนยูนิต จึงเหมาะกับถังบำบัดน้ำเสียที่เป็นถังสำเร็จรูปที่มี ประสิทธิภาพสูง ขนาดกะทัดรัด เหมาะกับพื้นที่จำกัด และ ถังเติมอากาศที่เหมาะสำหรับคอนโดที่มีจำนวนยูนิตมากๆ (50-200 ยูนิต) เป็นต้น
  3. อาคารสำนักงาน
    ลักษณะน้ำเสียของสำนักงานนั้นจะเป็นน้ำเสียจากห้องน้ำ และ ครัวพนักงานซึ่งมี ปริมาณ 2,000-20,000 ลิตรต่อวัน ขึ้นกับจำนวนพนักงานถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมจะเป็นถังเติมอากาศที่ ให้ประสิทธิภาพสูง และ น้ำที่ผ่านการบำบัดสามารถนำไปใช้ซ้ำได้ และ ถังสำเร็จรูปที่เหมาะกับสำนักงานที่มีพื้นที่จำกัดนั้นเอง
  4. โรงงานอุตสาหกรรม
    ลักษณะน้ำเสียของโรงงานนั้นจะเป็น น้ำเสียที่มีสารเคมี ไขมัน หรือ โลหะหนักปนเปื้อนโดยมี ปริมาณ 10,000-100,000 ลิตรต่อวัน ถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมจะเป็นถังสำเร็จรูปที่ มีระบบกรองขั้นสูง เช่น การกรองด้วยเมมเบรน (Membrane Filtration) และ ถังเติมอากาศที่เหมาะ สำหรับน้ำเสียที่มีสารอินทรีย์สูงนั้นเอง
  5. โรงแรมและรีสอร์ต
    ลักษณะน้ำเสียของโรงแรม หรือ รีสอร์ตนั้นจะเป็น น้ำเสียจากห้องพัก ร้านอาหาร และ สระว่ายน้ำ จะมีปริมาณเฉลี่ย 5,000-50,000 ลิตรต่อวัน ถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมนั้นได้แก่ ถังเติมอากาศ เหมาะสำหรับโรงแรมขนาดเล็ก ถึง ปานกลาง และ ถังสำเร็จรูป สำหรับโรงแรมในเมืองที่มีพื้นที่จำกัด เป็นต้น

จากที่กล่าวมาจะพบว่าการเลือกถังบำบัดน้ำเสียให้เหมาะสมกับประเภทอาคารนั้นต้องพิจารณาปริมาณน้ำเสีย ลักษณะน้ำเสีย ขนาดพื้นที่ งบประมาณ และ ข้อกำหนดทางกฎหมาย ซึ่ง ถังเกรอะ-ซึมจะเหมาะกับบ้านพักอาศัยเดี่ยวที่มีงบจำกัด ถังเติมอากาศ และ สำเร็จรูปเหมาะกับคอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน หรือ โรงงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง การบำรุงรักษา และ การเลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือก็จะช่วยให้ถังบำบัดน้ำเสียทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ยั่งยืน เช่นเดียวกัน โดยหากกำลังมองหาถังบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพนั้นเราขอแนะนำ  บริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ (มหาชน) จำกัด ที่มีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ และ ยังมีถังบำบัดน้ำเสียหลากหลายรุ่น และ ขนาด อีกทั้งยังมีประสบการณ์ มากว่า 45 ปี ซึ่งวิศวกรของเรามีความชำนาญในการให้คำปรึกษา ทั้งนี้ยังมีสินค้าให้ท่านเลือกอีกหลายรายการ ท่านจึงสามารถไว้วางใจให้เราดูแลท่านได้อย่างแน่นอน



บริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน)

โทร : 02-301-2257
E-Mail : sale@pp.premier.co.th
Line : @pp.wtprofessional
Website : https://www.premier-products.co.th/

แชร์เนื้อหา

Facebook
Twitter
LinkedIn
Email
WhatsApp

เนื้อหาโพสล่าสุด