บำบัดน้ำเสียอย่างมีประสิทธิภาพ เริ่มต้นที่การเก็บตัวอย่างน้ำทิ้งโรงงานที่ถูกต้อง
การบำบัดน้ำเสีย เป็นขั้นตอนที่สำคัญในโรงงานอุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรม เพราะน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมมักปนเปื้อนสารเคมี สารอินทรีย์ และจุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย ซึ่งตามปกติแล้วจะมีการเก็บตัวอย่างน้ำทิ้งทั้งก่อนที่จะเข้าระบบบำบัดน้ำเสียและหลังผ่านระบบบำบัดอยู่เสมอ เพราะเป็นขั้นตอนตรวจสอบคุณภาพน้ำเสียก่อนปล่อยสู่แหล่งน้ำสาธารณะ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ
ทำความรู้จักการบำบัดน้ำเสียโรงงานอุตสาหกรรม
การบำบัดน้ำเสียโรงงานอุตสาหกรรม เป็นกระบวนการที่ออกแบบมาเพื่อกำจัดสิ่งปนเปื้อนในน้ำเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ทำให้น้ำเสียมีคุณภาพดีขึ้นก่อนที่จะปล่อยกลับสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ หรือนำกลับมาใช้ใหม่ในกระบวนการผลิตอื่นๆ ซึ่งหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญของบำบัดน้ำเสีย ก็คือ ความถี่และระยะเวลาในการเก็บตัวอย่างน้ำทิ้ง เพราะช่วยสะท้อนสภาพคุณภาพน้ำที่แท้จริง และยังเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐาน ISO รวมทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนและบริหารจัดการ
ความถี่และระยะเวลาในการเก็บตัวอย่างน้ำทิ้งที่ถูกต้อง
ความถี่และระยะเวลาในการเก็บตัวอย่างน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม เป็นข้อกำหนดที่สำคัญตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม โดยมีปัจจัยที่เป็นตัวแปรสำหรับความถี่และระยะเวลาเก็บตัวอย่างน้ำทิ้ง ดังนี้
- ประเภทของอุตสาหกรรม จะมีลักษณะของน้ำเสียที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งขึ้นอยู่กับกระบวนการผลิตที่ใช้ วัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์ที่ได้ ตัวอย่างเช่น บางอุตสาหกรรมอาจมีการปล่อยสารปนเปื้อนที่มีความผันผวนสูง จึงต้องมีการเก็บตัวอย่างบ่อยครั้ง และควรมีระบบบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพ โดยแต่ละอุตสาหกรรมมีน้ำเสีย ดังนี้
- อุตสาหกรรมอาหาร น้ำเสียจะมีปริมาณสารอินทรีย์สูง เช่น ไขมัน น้ำมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องกลิ่นและการเกิดฟอง ก่อนปล่อยน้ำเสียโรงงานต้องบำบัดน้ำเสียอย่างถูกวิธี
- อุตสาหกรรมเคมี น้ำเสียอาจปนเปื้อนสารเคมีอันตราย เช่น กรด ด่าง โลหะหนัก ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ
- อุตสาหกรรมสิ่งทอ น้ำเสียจะมีสี สารเคมีที่ใช้ในการย้อม และอนุภาคเส้นใย
- อุตสาหกรรมกระดาษและเยื่อกระดาษ น้ำเสียจะมีสารอินทรีย์สูง และอาจมีสารเคมีที่ใช้ในการฟอกขาว
- อุตสาหกรรมโลหะ น้ำเสียอาจปนเปื้อนโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว แคดเมียม และโครเมียม
- ปริมาณน้ำเสียโรงงานที่มีปริมาณน้ำเสียมาก มักสัมพันธ์กับความซับซ้อนของกระบวนการผลิตที่มากขึ้นด้วย ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความผันผวนขององค์ประกอบในน้ำเสียได้บ่อยครั้ง ดังนั้นโรงงานที่มีปริมาณน้ำเสียมากจึงจำเป็นต้องมีการเก็บตัวอย่างบ่อยขึ้นเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและแม่นยำ โดยมีเหตุผลดังนี้
- ความผันผวนของกระบวนการผลิต เมื่อปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นหรือลดลง การปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต อาจส่งผลให้ปริมาณและชนิดของสารปนเปื้อนชนิดใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในน้ำเสียเปลี่ยนแปลงไป
- เหตุการณ์ผิดปกติ การเกิดอุบัติเหตุหรือการทำงานผิดพลาดของเครื่องจักร อาจทำให้เกิดการปล่อยสารปนเปื้อนในปริมาณมากและรวดเร็ว
- ความหลากหลายของสารปนเปื้อน โรงงานขนาดใหญ่ต้องมีระบบบำบัดน้ำเสียที่ใหญ่ขึ้น เพราะมักมีกระบวนการผลิตที่หลากหลาย ทำให้มีสารปนเปื้อนหลายชนิดปะปนกันอยู่ในน้ำเสีย การเก็บตัวอย่างบ่อยขึ้นจะช่วยให้สามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบเหล่านี้ได้อย่างละเอียด
- ชนิดของสารปนเปื้อนและผลกระทบต่อความถี่ ในการเก็บตัวอย่างน้ำเสีย น้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมแต่ละประเภทจะมีสารปนเปื้อนที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งขึ้นอยู่กับกระบวนการผลิต วัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์สุดท้าย โดยสารปนเปื้อนเหล่านี้อาจเป็นทั้งสารอินทรีย์ สารอนินทรีย์ หรือสารชีวภาพ และมีความเป็นพิษที่แตกต่างกัน ทำให้ระบบบำบัดน้ำเสียมีความแตกต่างกันออกไป
- สารอินทรีย์ เช่น ไขมัน น้ำมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต สารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหากลิ่น และการย่อยสลายทางชีวภาพได้ยาก
- สารอนินทรีย์ เช่น โลหะหนัก (ตะกั่ว แคดเมียม ปรอท) สารประกอบไซยาไนด์ กรด ด่าง ซึ่งมีความเป็นพิษสูงต่อสิ่งมีชีวิตและยากต่อการกำจัด
- สารชีวภาพ เช่น จุลินทรีย์ ปรสิต ซึ่งอาจก่อให้เกิดโรคติดต่อ
- ข้อกำหนดทางกฎหมาย และมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยน้ำเสียมักกำหนดให้โรงงานที่มีปริมาณน้ำเสียมากต้องมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำเสียบ่อยขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อน้ำทิ้งผ่านระบบบำบัดน้ำเสียและการปล่อยน้ำเสียต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยกฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง มีดังนี้
- พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 เป็นกฎหมายหลักที่กำหนดหลักการและแนวทางในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม รวมถึงการควบคุมมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม
- พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการขออนุญาตจัดตั้งโรงงาน รวมถึงมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการประกอบกิจการโรงงาน
- กฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติโรงงาน กำหนดมาตรฐานคุณภาพน้ำทิ้งของโรงงานอุตสาหกรรมแต่ละประเภท โดยพิจารณาจากชนิดและปริมาณของสารปนเปื้อนที่อาจมีอยู่ในน้ำเสีย
- มาตรฐานสากล นอกจากกฎหมายภายในประเทศแล้ว โรงงานอุตสาหกรรมยังต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสากล เช่น ISO 14001 ซึ่งเป็นมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม
ความถี่และระยะเวลาการเก็บตัวอย่างน้ำทิ้งมี 2 รูปแบบ
- การเก็บตัวอย่างแบบจ้วง เป็นการเก็บตัวอย่างน้ำทิ้งเพียงครั้งเดียวในแต่ละครั้งของการเก็บตัวอย่าง โดยมักนิยมใช้กับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กหรือกลางที่มีปริมาณน้ำเสียและความผันผวนของคุณภาพน้ำเสียไม่สูงมากนัก
- การเก็บตัวอย่างแบบผสมรวม เป็นการเก็บตัวอย่างน้ำทิ้งหลายครั้งในช่วงเวลาหนึ่ง แล้วนำมารวมกันเพื่อวิเคราะห์ โดยวิธีนี้จะช่วยให้ได้ค่าเฉลี่ยของคุณภาพน้ำเสียในช่วงเวลานั้นๆ เหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หรือนิคมอุตสาหกรรมที่มีปริมาณน้ำเสียมากและความผันผวนของคุณภาพน้ำเสียสูง ซึ่งการเก็บตัวอย่างแบบผสมรวม โดยเก็บ 4 ครั้งๆ ละ 500 มิลลิลิตร ทุก 2 ชั่วโมงต่อเนื่องกัน
ทำไมการบำบัดน้ำเสียจึงสำคัญ
การบำบัดน้ำเสีย ป้องกันมลพิษทางน้ำ เพราะน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมมักปนเปื้อน ส่งผลให้เกิดมลพิษทางน้ำ ทำให้แหล่งน้ำเสียหาย และส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ การบำบัดน้ำเสียจะช่วยรักษาความสมดุลของระบบนิเวศระหว่างสัตว์น้ำและพืช รวมทั้งปกป้องสุขภาพของประชาชน เนื่องจากน้ำเสียที่ปนเปื้อนสารเคมีและจุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย อาจปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำที่ใช้ในการอุปโภคบริโภค ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บแก่ประชาชน รวมทั้งเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมกำหนดให้โรงงานอุตสาหกรรมต้องบำบัดน้ำเสียให้ได้มาตรฐานก่อนปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม
เมื่อรู้แล้วการบำบัดน้ำเสียและความถี่และระยะเวลาการเก็บตัวอย่างน้ำทิ้งส่งผลดีอย่างไร สำหรับใครที่กำลังมองหาระบบบำบัดน้ำเสียภายในโรงงานอุตสาหกรรม บริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) ให้บริการออกแบบ ติดตั้ง ทดสอบและตรวจระบบบำบัดน้ำเสียโรงงาน และอุปกรณ์บำบัดน้ำเสีย โดยทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบสำรองน้ำ อาทิ ถังบำบัดน้ำเสีย ถังเก็บน้ำ ถังแซท (SAT) ถังเก็บน้ำโรงงาน โดยมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ 50 ปี เพื่อการเป็นผู้นำด้าน Water Solutions แบบครบวงจร
สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่
บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์
ที่อยู่: เลขที่ 2 พรีเมียร์เพลซ ซอยพรีเมียร์ 2 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250
โทร: 02-301-2223 (สั่งซื้อออนไลน์เท่านั้น)
Line: @pp.wtprofessional
ฝ่ายบริการ: 02-301-2327
Call Center: 0-2301-2100-1
แฟกซ์: 0-2398-1301
อีเมล: sale@pp.premier.co.th
